สาเหตุใดที่ทำให้ธุรกิจ
Ecommerce ในประเทศไทย
ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
1. เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นการสร้างเว็บกลางขึ้นมาแล้ว เปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามาใช้บริการฟรี โดยผู้ประกอบการลืมนึกถึงคุณภาพของสินค้าและราคา
2.ผู้ประกอบการไทย หลายคนยังขาดความรู้ความเข้าใจ ที่ถูกต้องในการใช้เว็บไซต์ เพื่อเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้า
3.ไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐมากนัก
4.เพราะจำนวนผู้ใช้บัตรเครดิต ในประเทศไทยยังมีไม่มาก ที่นิยมใช้เป็นช่องทางชำระเงินหลักๆ คือ การโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารพาณิชย์ ส่งพัสดุเก็บเงินปลายทางของ และ การส่งธนาณัติ
5.เกิดการหลอกลวง ในส่วนของกฎหมาย ในเรื่องการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์ หรือการทำเครื่องหมาย ทรัสต์ มาร์ค (Trust Mark)
6.ผู้ค้าส่วนใหญ่จะให้ความหวังในการขายสินค้าได้ทั่วโลก โดยไม่คำนึงถึงความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่แท้จริง
7.คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ให้ความเชื่อถือในการสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ E-commerce
8.คนไทยส่วนใหญ่หันที่จะมาเลือกซื้อสินค้าที่อยู่ใกล้ตัวเองและร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน และสามารถเลือกดูคุณภาพสินค้านั้นได้สะดวก
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ถ้าอยากจะให้ระบบการขายสินค้าในรูปแบบ E-commerce ในประเทศไทยประสบความสำเร็จ น.ศ.คิดว่าควรจะต้องประกอบด้วยปัจจัยใดบ้าง
1. นโยบายการคืนสินค้า (Return Policy) ถึงแม้ว่าจะมีรายละเอียดของสินค้าปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ก็ตามแต่สินค้าจำพวกอัญมณีเหล่านี้มีความจำเป็นที่จะต้องพิจารณา และจับต้อง Thaigem.com ยินยอมให้ลูกค้าคืนสินค้าอย่างไม่มีเงื่อนไขได้ภายใน30 วัน
2. การรับประกันสินค้า ((Gemological Authenticity Certificate) เพื่อความมั่นใจในตัวสินค้า Thaigem.com ได้มีการออกใบรับรองสำหรับสินค้าที่ซื้อบนเว็บไซต์นี้
3. เปิดโอกาสให้ลูกค้ากำหนดราคาซื้อที่พอใจ ((Make an Offer) ความจริงแล้วนี่คือรูปแบบของ Auction นั่นเอง การเปิดโอกาสให้ลูกค้าค้นหารายการสินค้าและกำหนดราคาซื้อเป็นนโยบายการตลาดที่ยอดเยี่ยม ทำให้ลูกค้ารู้สึกเป็นกันเอง คล้ายกับการซื้อขายปกติที่มีการโต้ตอบ และการหลีกเลี่ยงคำว่า “Auction” สร้างความรู้สึกที่ดีกว่าให้กับลูกค้าอีกด้วย
4. การจัดส่ง ((Delivery) เพื่อความมั่นใจ เว็บไซต์แห่งนี้เลือกใช้บริการของ Fedex ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปในมาตรฐานการให้บริการในระดับโลก และเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถติดตามสถานะของรายการสินค้าที่สั่งซื้อผ่านทางเว็บไซต์อีกด้วย
5. นโยบายการชำระเงิน ((Payment System) เพื่อความสะดวก ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตที่มีระบบความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานสูง (SSL - Secure Socket Layer) หรือผ่านตัวกลางที่เป็น Third Party อาทิเช่น Escrow.comหรือ PayPal เป็นต้น
6. นโยบายด้านความเป็นส่วนตัว ((Privacy) มีการระบุชัดในเรื่องของมาตรฐานของความเป็นส่วนตัวของข้อมูลลูกค้าเช่นเดียวกับเว็บไซต์มาตรฐานทั่วไป จะเห็นได้ว่าความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจผ่านอีคอมเมิร์ซนั้นมิใช่สิ่งที่เกิดขึ้นมาได้ง่าย หากแต่มาจากการริเริ่มแบบค่อยเป็นค่อยไป และการเข้าใจถึงพฤติกรรมของลูกค้าอย่างแท้จริง ทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระบบการสั่งซื้อ การรักษาความปลอดภัย คุณภาพและการรับประกันในตัวของสินค้าและระบบการชำระเงินที่เชื่อถือได้
1. เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นการสร้างเว็บกลางขึ้นมาแล้ว เปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามาใช้บริการฟรี โดยผู้ประกอบการลืมนึกถึงคุณภาพของสินค้าและราคา
2.ผู้ประกอบการไทย หลายคนยังขาดความรู้ความเข้าใจ ที่ถูกต้องในการใช้เว็บไซต์ เพื่อเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้า
3.ไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐมากนัก
4.เพราะจำนวนผู้ใช้บัตรเครดิต ในประเทศไทยยังมีไม่มาก ที่นิยมใช้เป็นช่องทางชำระเงินหลักๆ คือ การโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารพาณิชย์ ส่งพัสดุเก็บเงินปลายทางของ และ การส่งธนาณัติ
5.เกิดการหลอกลวง ในส่วนของกฎหมาย ในเรื่องการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์ หรือการทำเครื่องหมาย ทรัสต์ มาร์ค (Trust Mark)
6.ผู้ค้าส่วนใหญ่จะให้ความหวังในการขายสินค้าได้ทั่วโลก โดยไม่คำนึงถึงความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่แท้จริง
7.คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ให้ความเชื่อถือในการสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ E-commerce
8.คนไทยส่วนใหญ่หันที่จะมาเลือกซื้อสินค้าที่อยู่ใกล้ตัวเองและร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน และสามารถเลือกดูคุณภาพสินค้านั้นได้สะดวก
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ถ้าอยากจะให้ระบบการขายสินค้าในรูปแบบ E-commerce ในประเทศไทยประสบความสำเร็จ น.ศ.คิดว่าควรจะต้องประกอบด้วยปัจจัยใดบ้าง
1. นโยบายการคืนสินค้า (Return Policy) ถึงแม้ว่าจะมีรายละเอียดของสินค้าปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ก็ตามแต่สินค้าจำพวกอัญมณีเหล่านี้มีความจำเป็นที่จะต้องพิจารณา และจับต้อง Thaigem.com ยินยอมให้ลูกค้าคืนสินค้าอย่างไม่มีเงื่อนไขได้ภายใน30 วัน
2. การรับประกันสินค้า ((Gemological Authenticity Certificate) เพื่อความมั่นใจในตัวสินค้า Thaigem.com ได้มีการออกใบรับรองสำหรับสินค้าที่ซื้อบนเว็บไซต์นี้
3. เปิดโอกาสให้ลูกค้ากำหนดราคาซื้อที่พอใจ ((Make an Offer) ความจริงแล้วนี่คือรูปแบบของ Auction นั่นเอง การเปิดโอกาสให้ลูกค้าค้นหารายการสินค้าและกำหนดราคาซื้อเป็นนโยบายการตลาดที่ยอดเยี่ยม ทำให้ลูกค้ารู้สึกเป็นกันเอง คล้ายกับการซื้อขายปกติที่มีการโต้ตอบ และการหลีกเลี่ยงคำว่า “Auction” สร้างความรู้สึกที่ดีกว่าให้กับลูกค้าอีกด้วย
4. การจัดส่ง ((Delivery) เพื่อความมั่นใจ เว็บไซต์แห่งนี้เลือกใช้บริการของ Fedex ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปในมาตรฐานการให้บริการในระดับโลก และเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถติดตามสถานะของรายการสินค้าที่สั่งซื้อผ่านทางเว็บไซต์อีกด้วย
5. นโยบายการชำระเงิน ((Payment System) เพื่อความสะดวก ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตที่มีระบบความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานสูง (SSL - Secure Socket Layer) หรือผ่านตัวกลางที่เป็น Third Party อาทิเช่น Escrow.comหรือ PayPal เป็นต้น
6. นโยบายด้านความเป็นส่วนตัว ((Privacy) มีการระบุชัดในเรื่องของมาตรฐานของความเป็นส่วนตัวของข้อมูลลูกค้าเช่นเดียวกับเว็บไซต์มาตรฐานทั่วไป จะเห็นได้ว่าความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจผ่านอีคอมเมิร์ซนั้นมิใช่สิ่งที่เกิดขึ้นมาได้ง่าย หากแต่มาจากการริเริ่มแบบค่อยเป็นค่อยไป และการเข้าใจถึงพฤติกรรมของลูกค้าอย่างแท้จริง ทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระบบการสั่งซื้อ การรักษาความปลอดภัย คุณภาพและการรับประกันในตัวของสินค้าและระบบการชำระเงินที่เชื่อถือได้
เนื้อหาดีมากคับ อ่านแล้วได้ความรู้มากคับ
ตอบลบเนื้อหาสาระดีค่ะ อ่านเข้าใจค่ะ
ตอบลบเนื้อหาบทความของกล่าวเนื้อหาไว้ได้ดีนะครับ แต่หัวข้อบางอันยังไม่ค่อยครอบคลุมและชี้ชัดถึงเนื้อหาสำคัญนะครับ อาจมีส่วนปัจจัยต่างๆ เข้ามาเพิ่มอีก ซึ่งก็คือเรื่องลักษณะนิสัยของคนไทยเข้ามาเกี่ยวข้องตลอดจนภูมิสภาพทางการตลาดของผู้บริโภคซึ่งแตกต่างจากประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าด้าน E-commerce เป็นอย่างมาก รวมถึงด้านทัศนคติต่างๆของคนไทยที่ยังเข้าระบบที่ยังไม่ทั่วถึง อีกทั้งยังด้านไม่ไว้วางใจในด้านธุรกิจประเภทนี้ด้วยนะครับและอีกประเด็นคือสภาพเศรษฐกิจความเป็นอยู่ของคนไทยนั้นคือ ความยากจนที่เป็นปัญหาใหญ่ครับ
ตอบลบส่วนการที่จะพัฒนาE commerceในไทยได้ผล ผมคิดว่านอกจากปัจจัยที่กล่าวมานั้น น่าจะมีการสร้างพันธมิตรทางการค้าเข้ามามีส่วนช่วยเหลือระหว่างกันด้วยนะครับ อีกทั้งการให้ัฐบาลมามีส่วนช่วยอีกด้วยนะครับ
ซึ่งจากข้อมูลในบทความนี้ส่วนใหญ่สามารถทำให้มองเห็นถึงแนวทางในการดำเนินธุรกิจ E-commerce ได้เป็นส่วนหนึ่งครับ ขอบคุณครับ
ฝากลิ้งค์ ครับ http://ebusinesskorawit.blogspot.com/
เนื้อหาเยอะดีคะ มีแยกย่อยเป็นข้อๆ ทำให้อ่านง่าย
ตอบลบมีข้อมูลที่เข้าใจง่าย ต่อการศึกษาในรายวิชานี้
ตอบลบเนื้อหาเข้าใจง่าย น่าสนใจ
ตอบลบเนื้อหาในภาครวมก็ถือว่ามีความเข้าใจง่าย เหมาะแก่การหาความรู้เพิ่มเติม
ตอบลบเนื้อหาชัดเจน อ่านงายดีคะ
ตอบลบเนื้อหาน่าสนใจมากเลย ค่ะ
ตอบลบสรุปเนื้อหาได้ดีค่ะ อ่านง่ายทำให้เข้าใจได้ง่ายค่ะ
ตอบลบเนื้อหาดีมากค่ะ เข้าใจง่าย สามารถที่จะนำไปเป็นแนวทางในการทำธุรกิจได้ในระดับหนึ่ง
ตอบลบแม้ปัจจุบันภาพรวมของการสื่อสารผ่านเครือข่ายออนไลน์จะได้รับความนิยมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ในทางตรงกันข้ามกลับปรากฎว่า ยอดการทำธุรกิจผ่านสื่ออิเล็คทรอนิกส์ดังกล่าว กลับไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาถึงลักษณะทั่วไปของธุรกิจ ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทยมีสัดส่วนของธุรกิจขนาดเล็ก(มีคนทำงานไม่เกิน 5 คน) มากที่สุด คือ ร้อยละ 68.5 และเป็นการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างภาคธุรกิจกับผู้บริโภค(B2C) ร้อยละ 73.3
เนื้อหาดีค่ะ แต่ควรปรับปรุงบางหัวข้อที่ยังดูไม่ค่อยรัดกุมเท่าไหร่นะค่ะ แต่การตกแต่งดูสวยงามมากค่ะ
ตอบลบเนื้อหาสาระ ชัดเจน
ตอบลบเนื้อหาเยอะดีนะคับ ธุรกิจเหล่านี้อาจจะเป็นธุรกิจใหม่ที่คนไทยยังไม่ค่อยน่าสนใจ
ตอบลบแต่ในอนาคตผมว่าธุรกิจนี้จะเป็นการเปิดการค้าที่ทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้
ส่วนตัวผมเองเกี่ยวกับธุรกิจด้านนี้เหมือนกันคับ
:")